Author Archives: 5zbccs

MSC Apex

เป็นซอฟต์แวร์สำหรับออกแบบวิเคราะห์โครงสร้างแบบ All-In-One ยุคใหม่ที่กวาดรางวัลเทคโนโลยีซอฟต์แวร์ดีเด่นมากมายทั่วโลก MSC Apex ผสมผสานความสามารถในด้านของการสร้างโมเดลสามมิติ เข้ากันกับโมเดลไฟไนต์เอลิเมนต์ ทำให้สามารถแก้ไขส่วนที่เสียหาย ปรับปรุงโมเดลให้เหมาะกับการสร้างเมช การปรับรูปร่างของโมเดล ได้โดยไม่ต้องกลับไปที่ซอฟต์แวร์ CAD อีกทั้งมีศักยภาพการสร้างเอลิเมนต์ในแบบ 1, 2, 3 มิติได้ทั้งแบบ Automatic และแบบ manual โดยเฉพาะการสร้างพื้นผิวตรงกลางแผ่นบาง (Mid-Surface) เพื่อสร้าง Shell Element สำหรับงานแผ่นบางทั่วไปที่สามารถกำหนดคุณลักษณะความหนาโดยอัตโนมัติ ทำให้สะดวกสำหรับงานพลาสติกที่มีความหนาไม่เท่ากัน รูปแบบการสร้างและแก้ไขโมเดลจะเป็นแบบ Push and Pull โดยสามารถกระทำได้ที่ตัวโมเดลได้โดยตรง ทำให้สามารถลดปุ่มบนเมนู  อีกทั้งเมื่อทำการเปลี่ยนแปลงโมเดลสามมิติ โมเดลไฟไนต์เอลิเมนต์ก็จะเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย นอกจากนี้ยังควบรวมศักยภาพของการคำนวณโดยเทคโนโลยี MSC Nastran ทำให้ครบองค์ประกอบของ Pre-Solver-Post ที่ทันสมัย ใช้งานง่าย รวดเร็ว คล่องตัว เรียนรู้ได้จากสื่อวิดีโอมากมาย  Highlights กรณีศึกษาจากองค์กรที่ใช้ MSC Apex ท่านสามารถใช้งาน MSC Apex ผ่านระบบ Token ด้วยซอฟต์แวร์

Marc

เป็นซอฟต์แวร์ด้านไฟไนต์เอลิเมนต์สำหรับวิเคราะห์ปัญหาด้านโครงสร้างแบบไม่เป็นเชิงเส้นตรง (Nonlinear Structural Analysis) โดยทั่วไปสำหรับวิเคราะห์ปัญหาทางวิศวกรรมชั้นสูงด้านต่าง ๆ เช่น การออกแบบยาง การขึ้นรูปโลหะ การถ่ายเทความร้อน รวมถึงการวิเคราะห์ด้าน Multiphysics ในแบบต่าง ๆ Marc ถือเป็นซอฟต์แวร์ทางด้าน Nonlinear แบรนด์แรกของโลก ที่ถูกพัฒนาในเชิงพาณิชย์ ตั้งแต่ปี 1971 ดังนั้นความน่าเชื่อถือถึงผลการคำนวณจึงเป็นที่ยอมรับ และได้ถูกอ้างอิงในการตีพิมพ์ในวารสารทางด้านการคำนวณเชิงวิศวกรรมมากมาย Highlights ท่านสามารถใช้งาน Marc ผ่านระบบ Token ด้วยซอฟต์แวร์ MSC One

CAEfatigue

ซอฟต์แวร์ทางด้านไฟไนต์เอลิเมนต์ที่ใช้วิเคราะห์ป้ญหาด้านความคงทนของชิ้นงาน รวมถึงการประมาณอายุของชิ้นงานที่เกิดจากแรงกระทำแบบซ้ำไปซ้ำมา หรือที่เรียกว่า “การล้า” โดยการล้านี้เอง เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งมักจะไม่แสดงอาการให้เห็นอย่างเด่นชัด และมักเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวง เมื่อจำนวนรอบของการใช้งานเข้าสู่ภาวะวิกฤต ดังนั้นในการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่มีความเกี่ยวเนื่องกับชีวิตคน ดังเช่นยานพาหนะต่าง ๆ คือ รถยนต์ เครื่องบิน รถไฟ รวมถึงภาคอุตสาหกรรมชิ้นส่วนทดแทนที่มีราคาสูงหรือไม่สามารถเปลี่ยนได้โดยง่าย เช่นในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี พลังงาน ฯลฯ ล้วนแล้วแต่ต้องคำนึงถึงความเสียหายที่เกิดจากการล้าตั้งแต่จุดเริ่มต้นของการออกแบบ CAEfatigue จะช่วยวิศวกรด้านความคงทน ในการประมาณอายุการใช้งานของชิ้นส่วน ภายใต้แรงแปรผันตามเวลาที่มาจากหลากหลายทิศทาง และหลากหลายรูปแบบ คือ แรงทางกล และแรงที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของความร้อนที่ทำให้ชิ้นส่วนขยายและหดตัว โดยวิศวกรสามารถประเมินความเสี่ยงในเชิงสถิติ และสามารถปรับเปลี่ยนวัสดุ ปรับโครงสร้าง รวมถึงการปรับรูปแบบการใช้งานให้สอดคล้องและสมดุล ซึ่งจะทำให้ลดต้นทุนจากการลองผิดลองถูก ลดการทดสอบภาคสนามและในห้องทดสอบ และที่สำคัญคือการลดการเคลมชิ้นส่วนระหว่างระยะเวลาประกัน ซึ่งถือเป็นการเพิ่มการเชื่อมั่นของลูกค้าต่อแบรนด์ของผลิตภัณฑ์ Highlights 

Easy5

ใช้จำลองระบบการควบคุมพลศาสตร์ สำหรับการออกแบบระบบการควบคุมกลไกและการสั่งงานการเคลื่อนที่ที่สัมพันธ์กัน เช่น ระบบวาล์ว และท่อต่าง ๆ ในเครื่องยนต์ ระบบ Actuators ต่าง ๆ ระบบการถ่ายเทความร้อน (Heat Exchanger) และอื่น ๆ ได้รับการออกแบบสำหรับระบบปฏิบัติการ Windows ที่มีการติดต่อกับผู้ใช้ได้อย่างง่ายดายและรวดเร็วในรูปแบบ Schematic-based simulation ซึ่งมีโมเดลมากมายให้เลือกใช้ เช่น ระบบไฮดรอลิก, นิวแมติก, กลไกระบบที่เกี่ยวข้องกับอุณหภูมิ, ระบบไฟฟ้า เป็นต้น หรือสามารถเรียกใช้งานระบบได้จาก Library ที่มีอยู่เดิม Highlights

Dytran

โปรแกรมไฟไนต์เอลิเมนต์ที่พัฒนาการคำนวณมาจากวิธี Explicit ที่เหมาะสำหรับการคำนวณปัญหาแบบไม่เป็นเชิงเส้น (Nonlinear) ที่เกิดการเสียรูปแบบถาวรของโครงสร้างที่เกิดจากแรงกระทำแบบฉับพลัน ไม่ว่าวัตถุนั้นจะเป็นของแข็ง ของไหล หรือการปฏิสัมพันธ์ระหว่างของแข็งและของไหล (Fluid Structure Interaction, FSI) ดังเช่น การวิเคราะห์ด้านการชน การตกของวัตถุ คลื่นกระแทกจากการระเบิด เป็นต้น ด้วยศักยภาพการคำนวณที่น่าเชื่อถือ ทำให้ Dytran ถูกใช้สำหรับการออกแบบในหลากหลายอุตสาหกรรมคือ อุตสาหกรรมยานยนต์: ใช้สำหรับการวิเคราะห์การชนของรถยนต์ในด้านต่าง ๆ การออกแบบถุงลมนิรภัย การออกแบบเข็มขัดนิรภัย การวิจัยการเคลื่อนที่ของหุ่นที่ใช้ทดสอบแทนมนุษย์ (Dummy)ภายใต้แรงกระแทก การออกแบบลายดอกยางเพื่อการรีดน้ำที่มีประสิทธิภาพ อุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็คทรอนิกส์: ใช้เพื่อการวิเคราะห์ด้านการตกกระแทก (Drop Test) ของอุปกรณ์ไฟฟ้า เพื่อให้สามารถออกแบบโครงสร้างที่ดีที่สุด อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์: ใช้เพื่อการออกแบบโครงสร้างบรรจุภัณฑ์ที่ต้องรับแรงกระแทก เช่นการออกแบบแกลลอนบรรจุน้ำมันที่มีของเหลวอยู่ภายใน การออกแบบโฟมเพื่อรองรับการกระแทก เป็นต้น หน่วยงานวิจัยทางทหาร: ใช้เพื่อการออกแบบด้านการระเบิด การเคลื่อนตัวของ Shock Wave การออกแบบเสื้อเกราะกันกระสุน เป็นต้น อุตสาหกรรมอากาศยาน: ใช้เพื่อการออกแบบโครงสร้างเครื่องบินภายใต้แรงกระแทกแบบต่างๆ รวมถึงการออกแบบใบพัดของเครื่องยนต์เพื่อป้องกันการบินชนของนก เป็นต้น อุตสาหกรรมการผลิต: ใช้ Dytran เพื่อวิเคราะห์การเสียรูปของโลหะแผ่น และการวิเคราะห์ด้านการตีขึ้นรูปโลหะ (Forging) เป็นต้น ท่านสามารถใช้งาน Dytran ผ่านระบบ Token ด้วยซอฟต์แวร์

Digimat

ซอฟต์แวร์ด้าน CAE ที่ใช้คำนวณคุณสมบัติทางกล ทางความร้อน และทางไฟฟ้าของวัสดุผสม (Composite materials) สำหรับออกแบบวัสดุผสมให้เป็นไปตามความต้องการของผู้ใช้ โดยใช้ทฤษฎีการคำนวณหาคุณสมบัติวัสดุแบบเชิงเส้นและไม่เป็นเชิงเส้น ทำให้สามารถประยุกต์ใช้ได้กับวัสดุหลากหลายประเภท อาทิเช่น Elastic, Elastoplastic, Hyperelastic, Viscoelastic ฯลฯ ทั้งยังสร้างโมเดลของวัสดุผสมในรูปแบบ Representative Volume Element (RVE) ทำให้ผู้ใช้ได้เห็นภาพเสมือนของวัสดุผสมที่ได้ทำการสร้างขึ้นเอง และใช้เป็นฐานข้อมูลวัสดุวิศวกรรมภายในองค์กร แล้วนำข้อมูลวัสดุเหล่านั้นมาประยุกต์ใช้กับการวิเคราะห์ความแข็งแรงโครงสร้างที่เป็นวัสดุผสมต่อไป Digimat ประกอบไปด้วยหน้าต่างการทำงาน 8 หน้าต่างด้วยกัน ซึ่งทำหน้าที่แตกต่างกันดังนี้ ท่านสามารถใช้งาน Digimat ผ่านระบบ Token ด้วยซอฟต์แวร์

NEWS