Author Archives: 5zbccs

CostOptimizer

โดยทั่วไปแล้วการวิเคราะห์ต้นทุนของวิศวกรนั้นมีผลอย่างมากกับการตัดสินใจของผู้บริหารในแต่ละโครงการ โดยซอฟต์แวร์ CostOptimizer จะเกี่ยวข้องตั้งแต่กระบวนการออกแบบ Blank อย่างละเอียด, ประเมินความเสี่ยงจากการขึ้นรูปในเบื้องต้น และคำนวณราคาต้นทุนของชิ้นส่วนโลหะแผ่น จึงช่วยให้วิศวกรผู้ใช้สามารถวิเคราะห์ต้นทุนเบื้องต้นต่อ Blank ของชิ้นงานขึ้นรูปโลหะแผ่นว่ามีราคาทุนเท่าไหร่ สามารถประเมินถึงความเสี่ยงทางวิศวกรรมของการขึ้นรูป ซึ่งผลที่ได้คือผู้ใช้สามารถประเมินราคาขายเพื่อนำเสนอต่อลูกค้าได้อย่างเหมาะสม อีกทั้งซอฟต์แวร์ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตโดยลดการใช้วัตถุดิบและน้ำหนักของชิ้นงานเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ใกล้เคียงกับความต้องการมากที่สุด โดยใช้กระบวนการวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์แบบ Coupled Hybrid Inverse (CHI Solver) เข้ามาช่วยให้การวิเคราะห์ Springback และขนาด Blank ได้อย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้น  ในส่วนของการทำ Nesting นั้น จุดประสงค์ของการใช้ซอฟต์แวร์ CostOptimizer เพื่อให้เกิดการใช้วัตถุดิบอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยอ้างอิงจากขนาดหน้า Coil ที่ใช้ และระยะ Pitch ที่ถูกกำหนดขึ้น อีกทั้งรูปแบบการทำ Nesting ยังมีให้เลือกหลากหลายตั้งแต่ 1-up, 2-up, 2 blanks หรือ การจำเรียงแบบ Mirrored ซึ่งจะเหมาะกับการผลิตจำนวนมาก (Mass Production) ซึ่งในส่วนของการผลิตจำนวนไม่มากก็สามารถใช้ Slit Sheets ได้เช่นกัน โดยข้อมูลจากการวิเคราะห์ทั้งหมดจะถูกส่งออกมาในรูปแบบรายงานที่สามารถนำมาพิจารณาหรือใช้งานต่อได้อย่างง่ายดาย ช่วยย่นระยะเวลาการลองผิดลองถูกและเพิ่มประสิทธิภาพในการวิเคราะห์ต้นทุนจากเดิมได้เป็นอย่างดี Highlights CostOptimizer

FastForm Advanced

ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในงานวิเคราะห์ชิ้นงานและกระบวนการขึ้นรูปโลหะแผ่น เพื่อดูความเป็นไปได้ การประเมินขนาดและรูปร่างของ Blank และการคืนกลับของชิ้นงาน อีกทั้งยังสามารถระบุตำแหน่งของการฉีกขาด และรอยย่นของชิ้นงานจากการขึ้นรูป ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้ประหยัดเวลาจากการเปลี่ยนแปลงทางวิศวกรรม ตัวซอฟต์แวร์ได้นำเทคนิค Coupled Hybrid Inverse (CHI) ของ FTI มาใช้ เพื่อความรวดเร็วและแม่นยำของการวิเคราะห์ผล ทำให้วิศวกรออกแบบสามารถนำความต้องการหลักของผลิตภัณฑ์ Key Product Requirements (KPR) และการออกแบบเพื่อการผลิต Design for Manufacturability (DFM) มาผสมผสานให้สามารถทำงานร่วมกันได้ ซึ่งในการนำเทคนิคความต้องการหลักของผลิตภัณฑ์ Key Product Requirements (KPR) มาใช้นั้นจะช่วยให้วิศวกรออกแบบสามารถลดผลกระทบที่เกิดจากคุณภาพ ความปลอดภัย และเป็นไปตามกฏข้อบังคับที่เกี่ยวข้องในส่วนของการออกแบบเพื่อการผลิตหรือ Design for Manufacturability (DFM) ซึ่งจะช่วยให้วิศวกรออกแบบประเมินคุณสมบัติพื้นฐานหลังจากการขึ้นรูปของชิ้นงานได้ว่า มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดการแตกร้าวหรือรอยย่นบนพื้นชิ้นงานหรือไม่ อีกทั้งยังสามารถวิเคราะห์การดีดกลับของชิ้นงาน (Springback) หลังจากการขึ้นรูปได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังสามารถคำนวณขนาดของ Blank และอัตราการใช้วัสดุ (Material Utilization) รวมทั้งน้ำหนักของ Blank โดยสรุปข้อมูลทั้งหมดให้ออกมาในรูปแบบรายงานไฟล์สกุล Excel หรือ

MSC One

เป็นกลุ่มซอฟต์แวร์ที่จัดการด้วยระบบ Token ที่ให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงซอฟต์แวร์ในกลุ่มของ MSC Software ที่มีความหลากหลายในการวิเคราะห์และจำลองปัญหาทางวิศวกรรมด้านต่าง ๆ อาทิ

MeshWorks

ซอฟต์แวร์แบบ Pre-Post Processor ที่มีจุดเด่นในด้านการทำ Mesh จากโมเดล CAD ให้สวยงามมีคุณภาพ ช่วยแก้ปัญหาชิ้นงานที่ตี Mesh ยาก ตอบโจทย์ความต้องการโดยไม่ต้องตี Mesh ใหม่ ช่วยลดเวลาในการวิเคราะห์ได้ถึง 40-50 เปอร์เซ็นต์  ด้วยเครื่องมือในการทำ Surface mesh, Tetra mesh, Hex mesh, Mid-plane mesh ที่ใช้งานง่าย สามารถแปลงชิ้นงาน FE (Finite Element) หรือ CFD (Computational Fluid Dynamics) ให้เป็นชิ้นงานแบบ CAE (Computer-Aided Engineering) ที่ให้ผลการวิเคราะห์ที่แม่นยำยิ่งขึ้น มาพร้อมโมดูล Morphing ที่ช่วยให้วิศวกรสามารถนำชิ้นงานที่มีอยู่มาทำซ้ำแล้วดัดแปลง ปรับขนาด สร้างแนวเชื่อมแต่ละจุดเพื่อให้ออกมาเป็นชิ้นงานใหม่ในหลากหลายดีไซน์ด้วยการกำหนดค่าพารามิเตอร์โดยไม่ต้องสร้าง CAD ใหม่ Highlight ⠄

SIMULIA XFlow/PowerFLOW

ซอฟต์แวร์สำหรับวิเคราะห์ด้านพลศาสตร์ (Computational Fluid Dynamics: CFD) ยุคใหม่ที่ใช้การคำนวณแบบ Particle Base หรือ Meshless เทคโนโลยีที่ทำให้การคำนวณด้านการไหลก้าวข้ามความยากลำบากในด้านของการสร้างเอลิเมนต์ที่ยุ่งยากและใช้เวลานาน ประกอบกับการคำนวณแบบการเคลื่อนที่ของอนุภาคทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ Desktop ทั่วไป สามารถคำนวณปัญหาด้านการไหลขนาดใหญ่ได้ และมีความแม่นยำของการประมวลผลสูง อีกทั้งยังสามารถคำนวณควบรวมกันกับการเคลื่อนที่ของวัตถุเพื่อดูปฏิสัมพันธ์ระหว่างการเคลื่อนที่กับการไหลหรือระหว่างการไหลกับโครงสร้างของวัตถุ ซึ่งไม่สามารถทำได้ในซอฟต์แวร์ CFD ทั่วไป Highlights

SIMULIA Extended Package

กลุ่มซอฟต์แวร์สำหรับการวิเคราะห์ปัญหาทางวิศวกรรมหลากหลายประเภทประกอบด้วย ABAQUS: ซอฟต์แวร์ด้าน FEA สำหรับวิเคราะห์ปัญหาทางด้านโครงสร้างโดยทั่วไปขั้นสูง ทั้งแบบ Linear และ Nonlinear ที่มีพฤติกรรมแรงภายนอกแบบ Static และ Dynamics รวมถึงปัญหา MultiPhysics ในแบบต่าง ๆ ที่มีโมเดลของวัสดุที่หลากหลาย ประกอบกับการคำนวณที่แม่นยำ และมีทางเลือกของตัวแปรและวิธีการที่มากมาย Abaqus ประกอบด้วยระบบการคำนวณ 2 ส่วนหลัก ๆ คือ แบบ Standard หรือ Implicit เหมาะสำหรับการวิเคราะห์ปัญหา Static ทั่วไป และแบบ Explicit ที่เหมาะสำหรับปัญหาการกระแทก การชน และ FSI FE-SAFE: ซอฟต์แวร์ด้าน Durability สำหรับวิเคราะห์และประเมินอายุของโครงสร้างที่ถูกแรงกระทำซ้ำไปซ้ำมาทำให้เกิดการล้า และการเสียหายจากการแตกร้าว FE-Safe ถูกพัฒนามาตั้งแต่ต้นปี 1990 ถึงปัจจุบัน นอกเหนือจากมาตรฐานการคำนวณด้านการล้าทั่วไป เช่น S-N, E-N, Multiaxial, Crack Growth ฯลฯ แล้ว

NEWS